
เพราะช่วงนี้ตลาดผันผวนอยู่ตลอด จากพิษโควิด-19 ทำให้นักลงทุนหลายท่านเกิดความสับสนในการตัดสินใจในการลงทุน วันนี้จึงขอเล่าถึงบทความนี้ที่ได้นำมาจากหนังสือ Asset Allocation for Dummies ที่ได้สรุปให้เห็น 10 ข้อผิดพลาดและวิธีการที่จะสามารถเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นกับการลงทุนของคุณ

การไม่สนใจการจัดสรรการลงทุน (Ignoring asset allocation in the first place) เป็นความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เรียกว่าการลงทุนกับการเก็งกำไร การลงทุนนั้นอยู่บนหลักการของการจัดสรรสินทรัพย์ และการวิเคราะห์ด้วยวิธี Top-down Analysis ถึงแม้ว่าวิธีการนี้อาจจะดูน่าเบื่อไปบ้าง แต่การจัดสรรสินทรัพย์จะเป็นองค์ประกอบหลักที่จะนำไปสู่เป้าหมายทางการเงินของคุณ

การกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม (Believing that diversification is enough) หลายคนสับสนและเข้าใจผิดว่าการจัดสรรสินทรัพย์ คือการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ให้หลากหลายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ที่จริงแล้วการกระจายการลงทุนให้อยู่ในระดับที่สามารถดูแลจัดการได้จึงจะเป็นวิธีการที่ถูกต้อง

ลืมปรับพอร์ตการลงทุน (Forgetting to rebalance) หลังจากที่ตั้งเป้าหมายและทำการกระจายสินทรัพย์เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ว่าปล่อยนิ่งๆแล้วเงินจะงอกตามที่วาดฝันไว้ คุณต้องตระหนักเสมอว่าจะต้องปรับปรุงพอร์ตของคุณให้เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ อย่างเช่น มองว่าเศรษฐกิจไม่ดี หุ้นมีทิศทางไปในเชิงลบ อาจจะต้องปรับพอร์ตมาถือเงินสดหรือสินทรัพย์สภาพคล่องให้มากขึ้น

อย่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ (Indulging your emotions) ถึงแม้บางครั้งอาจโชคดีจากอารมณ์ ”โลภ” แต่ในระยะยาวแล้วคุณไม่อาจใช้อารมณ์ในการสร้างผลกำไรที่คุณต้องการได้ตลอด หลายๆครั้งก็คงเห็นผลขาดทุนที่เกิดขึ้น คงถือเป็นเครื่องยืนยันได้ในระดับหนึ่ง

ไม่มีการวางแผนระยะยาว (Not having a long-term plan) เชื่อว่าทุกคนทราบว่าการมีแผนระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญ แต่การทำมันให้สำเร็จคุณอาจจะต้องทำอะไรบางอย่างให้ได้มันมาด้วย เริ่มด้วยการรู้เป้าหมายและแหล่งที่มาของรายได้ของตนเอง จากนั้นทำการวางแผนว่าในอีก 10 ปี 20 ปี และ 30 ปีข้างหน้าว่าคุณอยากจะอยู่ที่ตรงไหน อยากมีเงินเท่าไร นอกจากนี้จะต้องรู้ระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับ และต้องทำการจัดสรรสินทรัพย์ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นการเขียนแผนการออกมาทำเป็นเอกสารที่ชัดเจน จะช่วยเตือนสติว่าวันนี้คุณเดินออกนอกแผนหรือไม่

พยายามไล่ล่าหาผลตอบแทน (Chasing performance) หลายคนน่าจะเข้าใจคำว่า “ติดดอย” และคงจะรู้ว่าความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร ดังนั้นไม่ควรไปไล่ตามซื้อหุ้น กองทุน หรืออุตสาหกรรมที่กำลังติดกระแส แต่ให้อยู่กับแผนการลงทุนของคุณเป็นหลัก

ให้ความสนใจกับสื่อมากเกินไป (Paying too much attention to the financial media) อย่าพยายามทำตามคำแนะนำในการลงทุนระยะสั้นๆ เพราะเหตุการณ์บางอย่างเกิดจากอารมณ์นักลงทุนระยะสั้นๆเท่านั้น แต่ให้ใช้ข่าวเพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มและปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนในระยะยาว แล้วนำมาปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม

ชอบคิดว่าตัวเองสามารถเอาชนะตลาดได้ (Thinking you can outsmart the market) คุณไม่ควรตกไปอยู่กับการพยายามจับจังหวะตลาด และอย่าเดิมพันอนาคตทางการเงินกับ “ดวงและการเสี่ยงโชค” แต่ควรให้ความสำคัญการจัดสรรสินทรัพย์และการปรับพอร์ตให้สมดุลมากกว่า

ไม่ใส่ใจเรื่องภาษี (Ignoring taxes) อย่าลืมใช้เวลาพิจารณาดูว่าในปีนี้ต้องเสียภาษีเป็นเงินเท่าไร และส่วนที่คุณสามารถลดหย่อนภาษีลงได้หากคุณทำการปรับแต่งพอร์ตการลงทุนของคุณ ไม่ว่าจะด้วยกองทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่าง กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ประกันชีวิต เป็นต้น

ไม่ใส่ใจเรื่องเงินเฟ้อ (Disrespecting inflation) ความมั่งคั่งสามารถดูได้จากความสามารถในการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งเงินเฟ้อจะทำให้ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยนี้ลดลง ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่าพอร์ตการลงทุนของคุณสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้สูงกว่าเงินเฟ้อ
หากพบว่าคุณมีข้อผิดพลาดในการลงทุน ลองนำเอาคำแนะนำข้างต้นมาปรับปรุงวิธีการลงทุนให้เข้ากับเป้าหมาย และความเสี่ยงที่เหมาะสมของตัวคุณเอง อย่างน้อยคุณจะสนุกและมีความสุขกับการลงทุนมากขึ้น คุณสามารถติดตามบทความดีดีแบบนี้หรือข้อมูลอื่นๆได้ผ่านช่องทางดังนี้
Website: www.dwarrant24.com
Line: @DW24 >> https://lin.ee/zGyIRGe
Facebook : Dwarrant24 >> https://www.facebook.com/Dwarrant24/
Intragram : dwarrant24 >>https://www.instagram.com/dwarrant24/?hl=th
กลุ่ม Open Chat DW24 >> https://line.me/ti/g2/mMMCqkLA8jf1I-bwKAwIbw
Post Views: 3,014