ภายหลังจากที่ตลท.ได้ปรับเปลี่ยนระบบเทรดใหม่ก็ได้มีฟีเจอร์ของการดู Bid – Offer เป็น 10 แถว วันนี้เราจะมาดูกันว่าผู้ออก DW จำเป็นต้องวางให้ครบทุกช่องหรือไม่และถ้าวางไม่ครบทุกช่องจะมีผลอะไรมาดูกัน
Bid – Offer 10 ช่องดียังไง?
การที่ใช้ Bid – Offer 10 ช่อง ช่วยให้นักลงทุนสามารถดูปริมาณการตั้งรอเพื่อซื้อหรือขายที่กว้างมากขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ฝั่งละ 5 ช่องเท่านั้น และการที่เห็นปริมาณการตั้งรอนี่แหละคือสิ่งสำคัญเพราะนักลงทุนจะได้เห็นถึงราคาที่นักลงทุนส่วนใหญ่สนใจเป็นพิเศษ หรือสามารถวางแนวรับ – แนวต้าน ได้ในวัน
ตัวอย่าง
จากภาพจะเห็นได้ว่าฝั่ง Bid มีคนที่สนใจรอซื้ออยู่ที่ 4.32 บาท ถึง 1.1 ล้านหน่วย เราอาจจะพิจาณาราคาดังกล่าวเป็นแนวรับ
และฝั่ง Offer ที่ราคา 4.56 บาท มีคนรอขายถึง 1 ล้านหน่วย เราอาจจะพิจารณาแนวนี้เป็นแนวต้านได้
ซึ่งสามารถดู 2 แนวนี้ได้ง่ายๆ คือ ราคาไหนที่มีปริมาณรอซื้อหรือขายมากกว่าราคาอื่นอย่างเห็นได้ชัดแนวนั้นมีโอกาสเป็นแนวรับและแนวต้านได้
หากเทียบกับ Bid – Offer 5 ช่อง แบบเดิมเราจะไม่สามารถเห็น 2 แนวดังกล่าวได้เลย ดังนั้นปัจจุบันที่มี Bid – Offer 10 ช่อง ก็มีข้อดีที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น
DW ต้องวาง Bid – Offer 10 ช่องหรือไม่?
หลายคนที่เทรดหุ้นบน Bid – Offer 10 ช่องพอเห็นช่องล่างๆ มี Volume น้อยๆก็อาจจะกังวลได้เช่น หากคนขายออกมาเยอะๆ ก็มีโอกาสที่ราคารูดลงได้ แต่การวาง Bid – Offer ของ DW นั้นแตกต่างจากหุ้นรายตัวเพราะ DW นั้นมีผู้ดูแลสภาพคล่องให้ตลอดเวลา แล้วแบบนี้ถ้ามีคนต้องการซื้อ-ขาย DW มากกว่า Volume ที่วางเอาไว้แบบนี้ราคาจะรูดขึ้น/ลงหรือไม่มาดูกัน
ตัวอย่าง
จากภาพตัวอย่างจะเห็นได้ว่า DW ซีรีส์นี้มีการวาง Bid – Offer อยู่ที่ 6 ช่องจากทั้งหมด 10 ช่อง นักลงทุนบางคนอาจจะกังวลว่าถ้าเกิดซื้อหรือขายจำนวนหน่วยที่มากๆ เช่น 20 ล้านหน่วยครั้งเดียว แต่ปริมาณ Bid – Offer ที่ผู้ออกวางรวมกันมีเพียง 10 กว่าล้านหน่วยแบบนี้ราคาจะหายไปทั้งแถบเลยมั้ย ต้องตอบว่าไม่เพราะออเดอร์ของนักลงทุนจะค้างอยู่เพื่อรอ Match ออกเดอร์กับทางผู้ออกจนหมดโดยที่ราคาของ DW ไม่เกิดการรูดขึ้นหรือลง
สรุปแล้ว Bid – Offer แบบ 10 ช่องราคาช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการเทรดได้ง่ายยิ่งขึ้น และในฝั่งของ DW นักลงทุนไม่ต้องกังวลว่าการที่ผู้ออกไม่ได้มีการวางครบ 10 ช่องแล้วจะมีความเสี่ยงหรือข้อเสียเพราะสุดท้ายแล้วนักลงทุนก็จะต้องมีการ Match ออเดอร์ตามตามรางราคาอยู่แล้วแม้ว่านักลงทุนจะตั้งราคาต่ำมากหรือสูงมากเข้ามาในจำนวนออเดอร์ขนาดใหญ่ก็ตาม โดยทางผู้ออกจะทยอย Match order ให้ลูกค้าแบบ Best bid Best offer ตามราคาที่ควรจะเป็น
Post Views: 455