งบการเงินทำไมต้องดู D/E Ratio แล้ว D/E ที่สูงหมายถึงอย่างไรแล้วดีรึเปล่า มาหาคำตอบกัน

D/E Ratio ย่อมาจาก Debt to Equity Ratio
หรือแปลเป็นไทยว่า “อัตราส่วนหนี้ต่อทุน”
จากชื่อและคำแปลก็เป็นตัวบ่งบอกแล้วว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นหนี้สิ้น
เทียบกับส่วนของเจ้าของนั่นเอง เป็นค่าที่นักลงทุนสามารถเอาไว้พิจารณา
ระดับหนี้สินขิงบริษัทนั้นเอง

ค่า D/E บ่งบอกว่าบริษัทมีภาระหนี้สินคิดเป็นกี่เท่าของทุนหรือส่วนของเจ้าของ
โดยนักลงทุนสามารถหาตัวเลขหนี้สินและส่วนของเจ้าของได้จากงบแสดงฐานะ
ทางการเงินของบริษัท ทั้งนี้ไม่ได้มีการกำหนดไว้แน่นอนว่าค่าD/E ต้องเป็นเท่าไหร่
เนื่องจากขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจด้วยซึ่งโดยทั่วไปแล้วค่าD/Eที่นักลงทุนยอมรับ
ได้มักไม่เกิน 2 เท่า แต่ค่าD/E ที่มากกว่า 2 เท่าขึ้นไปก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทนั้น
มีภาระหนี้มากเกินไปจนนักลงทุนต้องหลีกเลี่ยง เช่น กลุ่มธุรกิจธนาคาร สินเชื่อ
และประกันที่มีผลิตภัณฑ์หลักคือ เงินฝากที่จะถูกนับเป็นหนี้สินของบริษัท ในขณะ
ที่การปล่อยกู้นับเป็นสินทรัพย์ของบริษัท

ค่า D/E ที่คำนวนสัดส่วนของหนี้สินต่อส่วนของทุน
สะท้อนการพึ่งพาการกู้ยืมของบริษัท ซึ่งหนี้สินที่เกิดจากการระดมทุน ส่วนใหญ่จะอยู่ใน
รูปของสินเชื่อธนาคารหรือการออกตราสารหนี้ซึ่งจะก่อให้เกิดภาระผูกพันตามมาในรูป
ของดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายและเงินต้นเมื่อถึงกำหนด หากบริษัทมีภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายสูง
ก็จะมีความเสี่ยงสูงต่อปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงินที่อาจนำไปสู่ปัญหาการผิดนัด
ชำระหนี้ (Default)ที่เจ้าหนี้ไม่ได้รับดอกเบี้ยหรือเงินต้นคืนตามเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม
แม้ว่าค่า D/E จะเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนทราบภาระหนี้สินของบริษัทในช่วงเวลาหนึ่ง
แต่นักลงทุนควรพิจารณาตัวเลขทางการเงินอื่นไม่ว่าจะเป็น รายได้กำไรสุทธิ EBITDA
รวมถึง Net Profit Margin นอกเหนือไปจากอันดับเครดิตเพื่อประกอบการประเมินความ
เสี่ยงด้านเครดิตก่อนตัดสินใจลงทุน

สำหรับผู้กู้หรือบริษัทที่ออกตราสารหนี้ที่มีค่าD/E
จึงถูกมองว่ามีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระสูง การจะระดมทุนเพิ่มด้วยการออกหุ้นกู้
จึงอาจทำได้ไม่สะดวกและมักจะต้องจ่ายคูปองที่สูงขึ้นชดเชยกับความเสี่ยงปัจจุบันหลายๆ
บริษัทจึงหันมาอาศัยนวัตกรรมของตราสารหนี้ อาทิเช่น Perpetual bond ในการระดมทุนผ่านเครื่องมือตราสารหนี้ เนื่องจากหลักการบัญชีจะนับการออกตราสารหนี้ประเภทนี้เป็นทุนทั้งจำนวน ค่า D/E จึงไม่สูงขึ้น ไม่ผิดเงื่อนไขข้อกำหนดสิทธิแม้ว่าบริษัทจัดอันดับเครดิตจะนับตราสารประเภทนี้เป็นทุน 50% และหนี้ 50% ในช่วง 5 ปีแรกก็ตาม(ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ Perpetual bond หุ้นกู้ไม่มีอายุ ดังนั้นข้อดีอย่างหนึ่งของตราสารประเภทนี้ นอกจากจะทำให้บริษัทมีเงินทุนมาดำเนินกิจการแล้วยังช่วยให้ค่า D/E ของบริษัทไม่สูงขึ้นด้วย
ที่มาของข้อมูล: ThaiBMA
(http://www.thaibma.or.th/EN/Investors/Individual/Blog/2019/11012019.aspx)
Post Views: 5,244