fbpx

ส่องตลาดหุ้นไทยครึ่งปีแรก 2023

June 23, 2023

เป็นที่รู้กันดีว่าตลาดหุ้นปี 2023 นี้น่าเป็นห่วงพอสมควรไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกไปจนถึงภายในประเทศเองก็ดีวันนี้ DW24 จะพาทุกคนไปเช็คสุขภาพตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีแรกกัน

ตลาดหุ้นไทยเงียบเหงาในรอบหลายปี

ตลาดหุ้นไทยกลับมาเงียบเหงาในรอบ 4 ปีโดยมีมูลค่าซื้อ – ขาย เฉลี่ยต่อวันต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท หากย้อนกลับไปดูนับเป็นจุดที่แทบต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยมีรายละเอียดดังนี้

รายละเอียด20192020202120222023
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท)52,467.58  67,334.80  88,443.08  71,226.17  56,301.59  
มูลค่ารวมการซื้อขายหุ้นทั่วไป (ล้านบาท)10,947,620.72  14,503,476.22  18,997,485.83  15,519,977.38  5,930,160.04  
มูลค่ารวมการซื้อขาย DW (ล้านบาท)1,509,645.371,653,611.742,038,281.461,453,392.11474,079.71

จากข้อมูลจะพบว่าในปี 2020 หรือนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นมาตลาดหุ้นไทยก็มีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากเฉลี่ย 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน ขึ้นไปสู่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 9 หมื่นล้านต่อวันในปี 2021 ที่ผ่านมา

  • มูลค่าการซื้อขายหุ้นรายตัวในปี 2021 ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 73.53% เมื่อเทียบกับปี 2019
  • มูลค่าการซื้อขาย DW ในปี 2021 ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.01% เมื่อเทียบกับปี 2019

แต่ในปี 2023 นี้กลับสวนทางเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าโดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับตัวลดลงไปใกล้เคียงกับช่วงปี 2019 เมื่อทำการเจาะลึกลงไปในขึ้นมูลจะพบได้ดังนี้

  • มูลค่าการซื้อขายหุ้นทั่วไปครึ่งปีแรกนี้คิดเป็นเพียง 38.21% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นทั่วไปในปี 2022
  • มูลค่าการซื้อขาย DW ครึ่งปีแรกคิดเป็นมูลค่าเพียง 32.62% ของมูลค่าการซื้อขาย DW ในปี 2022

หากทำการเทียบสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายในครึ่งปีหลังที่เหลือเท่ากับครึ่งปีแรกและนำข้อมูลไปประเมินการซื้อขายหุ้นรายตัวและ DW ในปี 2023 จะได้ตัวเลขที่น่ากังวลต่อตลาดหุ้นไทยดังนี้

  • มูลค่าการซื้อขายหุ้นทั่วไปในปี 2023 มีโอกาสลดลงถึง -23.58% เมื่อเทียบกับปี 2022
  • มูลค่าการซื้อขาย DW ในปี 2023 มีโอกาสลดลงถึง -34.76% เมื่อเทียบกับปี 2022

รู้หรือไม่! มูลค่าการซื้อขายต่อวันที่ต่ำสุดในครึ่งปีแรก 2023 อยู่ที่ 31,797.46 ล้านบาท ในวันที่ 12 มิถุนายน 2566
มูลค่าการซื้อขายต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง อยู่ที่ 29,441.48 ล้านบาท ในวันที่ 26 ธันวาคม 2565

ปีที่ลำบากของตลาดหุ้นไทย

ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่ยากลำบากของตลาดหุ้นไทยไม่น้อยนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นจำเริ่มต้นของความยากลำบากนี้ย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นปี 2022

  • มกราคม 2022           จุดเริ่มต้นของความกังวลขึ้นดอกเบี้ยของ FED
  • กุมภาพันธ์ 2022        เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตลาดหุ้นมีความกังวล
  • มีนาคม 2022             FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก
  • เมษายน 2022           ต้นทุนพลังงานเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากสงคราม
  • พฤษภาคม 2022       สัญญาณเงินเฟ้อเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น

แค่ 5 เดือนแรกของปี 2022 ถือว่าเป็นความกังวลจากปัจจัยภายนอกล้วนๆ ส่งผลมาถึงภายในประเทศ

  • มิถุนายน 2022          เงินเฟ้อภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
  • กรกฎาคม 2022         FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2.50% แต่ไทยดอกเบี้ยนโยบายเพียง 0.25%
  • สิงหาคม 2022          กนง.ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในประเทศไทยที่ 0.25%
  • พฤศจิกายน 2022      เกิดเคสหุ้น MORE ที่กลายเป็นมหากาพย์จุดเริ่มต้นของความน่าเชื่อถือของตลาดหุ้น
  • มีนาคม 2023            หุ้น STARK ที่อยู่ใน SET100 ไม่ส่งงบการเงินปี 2565
  • พฤษภาคม 2023       ประเทศไทยมีการเลือกตั้งทำให้เป็นช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล
  • มิถุนายน 2023          เกิดเคสหุ้น STARK ที่มีการตบแต่งบัญชีตั้งแต่ปี 2564 การแก้ไขงบการเงินส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์เข้าข่ายล้มละลาย ทำให้เป็นเคสหุ้นที่เกิดความเสียหายต่อนักลงทุนเป็นจำนวนมาก

ด้วยปัจจัยต่างๆในรอบ 1 ปีที่ผ่านมานั้นมีความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นเกิดขึ้นรวมไปถึงนโยบายต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศทำให้เม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นไหลออกไปยังสินทรัพย์อื่นๆ โดยทีผลกระทบนี้ไม่ได้ตกอยู่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่สิ่งที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนไม่น้อยคือเคสที่เกิดต่อหุ้นทั้ง 2 ในรอบไม่ถึง 1 ปี แต่สร้างความเสียหายต่อนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้ล่าสุดตลท. ได้ออกแนวทางในการปรับปรุงเกณฑ์ต่างๆเพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยต่อหุ้นในตลาดหุ้นไทยในอนาคต

ที่มา: SET

ตลาดหุ้นไทย