เป็นที่รู้กันดีว่าตลาดหุ้นปี 2023 นี้น่าเป็นห่วงพอสมควรไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกไปจนถึงภายในประเทศเองก็ดีวันนี้ DW24 จะพาทุกคนไปเช็คสุขภาพตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีแรกกัน
ตลาดหุ้นไทยเงียบเหงาในรอบหลายปี
ตลาดหุ้นไทยกลับมาเงียบเหงาในรอบ 4 ปีโดยมีมูลค่าซื้อ – ขาย เฉลี่ยต่อวันต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท หากย้อนกลับไปดูนับเป็นจุดที่แทบต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยมีรายละเอียดดังนี้
รายละเอียด | 2019 | 2020 | 2021 | 2022 | 2023 |
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) | 52,467.58 | 67,334.80 | 88,443.08 | 71,226.17 | 56,301.59 |
มูลค่ารวมการซื้อขายหุ้นทั่วไป (ล้านบาท) | 10,947,620.72 | 14,503,476.22 | 18,997,485.83 | 15,519,977.38 | 5,930,160.04 |
มูลค่ารวมการซื้อขาย DW (ล้านบาท) | 1,509,645.37 | 1,653,611.74 | 2,038,281.46 | 1,453,392.11 | 474,079.71 |
จากข้อมูลจะพบว่าในปี 2020 หรือนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นมาตลาดหุ้นไทยก็มีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากเฉลี่ย 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน ขึ้นไปสู่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 9 หมื่นล้านต่อวันในปี 2021 ที่ผ่านมา
- มูลค่าการซื้อขายหุ้นรายตัวในปี 2021 ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 73.53% เมื่อเทียบกับปี 2019
- มูลค่าการซื้อขาย DW ในปี 2021 ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.01% เมื่อเทียบกับปี 2019
แต่ในปี 2023 นี้กลับสวนทางเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าโดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับตัวลดลงไปใกล้เคียงกับช่วงปี 2019 เมื่อทำการเจาะลึกลงไปในขึ้นมูลจะพบได้ดังนี้
- มูลค่าการซื้อขายหุ้นทั่วไปครึ่งปีแรกนี้คิดเป็นเพียง 38.21% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นทั่วไปในปี 2022
- มูลค่าการซื้อขาย DW ครึ่งปีแรกคิดเป็นมูลค่าเพียง 32.62% ของมูลค่าการซื้อขาย DW ในปี 2022
หากทำการเทียบสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายในครึ่งปีหลังที่เหลือเท่ากับครึ่งปีแรกและนำข้อมูลไปประเมินการซื้อขายหุ้นรายตัวและ DW ในปี 2023 จะได้ตัวเลขที่น่ากังวลต่อตลาดหุ้นไทยดังนี้
- มูลค่าการซื้อขายหุ้นทั่วไปในปี 2023 มีโอกาสลดลงถึง -23.58% เมื่อเทียบกับปี 2022
- มูลค่าการซื้อขาย DW ในปี 2023 มีโอกาสลดลงถึง -34.76% เมื่อเทียบกับปี 2022
รู้หรือไม่! มูลค่าการซื้อขายต่อวันที่ต่ำสุดในครึ่งปีแรก 2023 อยู่ที่ 31,797.46 ล้านบาท ในวันที่ 12 มิถุนายน 2566 มูลค่าการซื้อขายต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง อยู่ที่ 29,441.48 ล้านบาท ในวันที่ 26 ธันวาคม 2565 |
ปีที่ลำบากของตลาดหุ้นไทย
ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่ยากลำบากของตลาดหุ้นไทยไม่น้อยนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นจำเริ่มต้นของความยากลำบากนี้ย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นปี 2022
- มกราคม 2022 จุดเริ่มต้นของความกังวลขึ้นดอกเบี้ยของ FED
- กุมภาพันธ์ 2022 เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตลาดหุ้นมีความกังวล
- มีนาคม 2022 FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก
- เมษายน 2022 ต้นทุนพลังงานเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากสงคราม
- พฤษภาคม 2022 สัญญาณเงินเฟ้อเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น
แค่ 5 เดือนแรกของปี 2022 ถือว่าเป็นความกังวลจากปัจจัยภายนอกล้วนๆ ส่งผลมาถึงภายในประเทศ
- มิถุนายน 2022 เงินเฟ้อภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
- กรกฎาคม 2022 FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2.50% แต่ไทยดอกเบี้ยนโยบายเพียง 0.25%
- สิงหาคม 2022 กนง.ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในประเทศไทยที่ 0.25%
- พฤศจิกายน 2022 เกิดเคสหุ้น MORE ที่กลายเป็นมหากาพย์จุดเริ่มต้นของความน่าเชื่อถือของตลาดหุ้น
- มีนาคม 2023 หุ้น STARK ที่อยู่ใน SET100 ไม่ส่งงบการเงินปี 2565
- พฤษภาคม 2023 ประเทศไทยมีการเลือกตั้งทำให้เป็นช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล
- มิถุนายน 2023 เกิดเคสหุ้น STARK ที่มีการตบแต่งบัญชีตั้งแต่ปี 2564 การแก้ไขงบการเงินส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์เข้าข่ายล้มละลาย ทำให้เป็นเคสหุ้นที่เกิดความเสียหายต่อนักลงทุนเป็นจำนวนมาก
ด้วยปัจจัยต่างๆในรอบ 1 ปีที่ผ่านมานั้นมีความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นเกิดขึ้นรวมไปถึงนโยบายต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศทำให้เม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นไหลออกไปยังสินทรัพย์อื่นๆ โดยทีผลกระทบนี้ไม่ได้ตกอยู่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่สิ่งที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนไม่น้อยคือเคสที่เกิดต่อหุ้นทั้ง 2 ในรอบไม่ถึง 1 ปี แต่สร้างความเสียหายต่อนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้ล่าสุดตลท. ได้ออกแนวทางในการปรับปรุงเกณฑ์ต่างๆเพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยต่อหุ้นในตลาดหุ้นไทยในอนาคต
ที่มา: SET
Post Views: 537