เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 65 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ช้อปดีมีคืน” เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีการกำหนดวงเงินสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 บาทต่อคน จากในครั้งก่อนวงเงินสูงสุดเพียง 30,000 บาทต่อคน
เช็คก่อนช้อปเงื่อนไขที่ควรรู้!!
วงเงินสูงสุดเพิ่มเป็น 40,000 บาท ต้องเช็คดีให้ดีก่อนเพราะเงื่อนไขในปี 66 จะแตกต่างกับปี 65 เล็กน้อยดังนั้นก่อนช้อปก็ควรเช็ครายละเอียดให้ครบเพื่อที่จะไม่เสียสิทธิ์
1.วงเงินสูงสุดที่จะได้รับ✔
แบ่งยอดออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.การซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าทั่วไปวงเงิน 30,000 บาท (ขอใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษ) 2.การซื้อสินค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์วงเงิน 10,000 บาท (ขอใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์)
*ตรวจสอบบริษัทที่มีการจดทะเบียน e-Tax Invoice ได้ที่นี่
ตัวอย่าง
- ซื้อสินค้ารวมมูลค่า 50,000 บาท และขอใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษจะได้รับสิทธิลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท
- ซื้อสินค้ารวมมูลค่า 50,000 บาท และขอใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์จะได้รับสิทธิลดหย่อนสูงสุด 40,000 บาท หรือลดหย่อนภาษีโดยใช้ใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษไปแล้ว 30,000 บาท จะใช้ใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
2.ระยะเวลาโครงการ✔
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2566 รวม 46 วัน โดยต้องเก็บใบกำกับภาษีสำหรับยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีถัดไป
3.ซื้ออะไรถึงนำไปลดหย่อนได้✔
สินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- สินค้าและบริการที่มีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- หนังสือรูปแบบกระดาษ / E-Book
- สินค้า OTOP
4.สินค้าและบริการที่ไม่เข้าร่วมโรงการ✔
- ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
- ค่ายาสูบ บุหรี่
- ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และ เรือ
- ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
- ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
- ค่าบริการจัดนำเที่ยว
- ค่าที่พักในโรงแรม
- ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์
- ค่าโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และค่าบริการที่มีข้อตกลงให้บริการระยะยาว เริ่มต้น ก่อน 1 ม.ค.66 หรือสิ้นสุดหลัง 15 ก.พ.66
- ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
- ค่าเบื้ยประกันวินาศภัย
- ทองคำแท่ง
- ค่ารักษาพยาบาล
- ค่าทำศัลยกรรม
- ผักผลไม้สด
- เนื้อสัตว์สด
ซื้อ-ขายหุ้นสามารถนำไปลดหย่อนภาษีด้วยได้หรือไม่?
เมื่อเราย้อนกลับไปดูที่เงื่อนไขก็จะพบว่าสินค้าและบริการที่มีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ดังนั้นค่าธรรมเนียมการซื้อขายหุ้นที่มีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน และบัญชีหุ้นทั้ง 3 ประเภทได้แก่ .บัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) บัญชีเงินสด (Cash Account) และบัญชีมาร์จิน (Credit Balance) สามารถนำมาใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีโครงการช้อปดีมีคืน ได้เช่นกัน โดยจะได้รับสิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 40,000 บาท (หากบริษัทหลักทรัพย์ออกใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์) *อ้างอิงจากมาตรการในปี 2565 จาก SET
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าการลดหย่อนภาษีในโครงการครั้งนี้เราจะได้เงินคืนสูงสุดกี่บาท โดยดูจากเงินได้สุทธิต่อปีเพื่อให้เราได้เปรียบในการวางแผนการเงินก่อนที่ใน Q2/66 จะเริ่มมีการเก็บภาษีหุ้นในอัตรา 0.55%
ตัวอย่าง นักลงทุนมีเงินได้สุทธิ 600,000 บาทต่อปี ฐานภาษีจะอยู่ที่ 15% เงินคืนสูงสุดจะเท่ากับ 40,000 (วงเงินลดหย่อน) X 15% (ฐานภาษี) = 6,000 บาท
*อัพเดท*
ใครที่เทรดหุ้นหรือ DW อยู่แล้วก็สามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่มมาลดหย่อนได้เช่นกันเพื่อนำมาหักลบกับการเก็บภาษีขายหุ้นที่จะมีขึ้นในอนาคต ดังนั้นนักลงทุนก็สามารถทำกำไรผ่าน DW ได้ถึงแม้ว่าจะมีการเก็บภาษีหุ้นเนื่องจาก DW เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราทด
หากว่าใครยังไม่รู้จัก DW สามารถศึกษาข้อมูลได้ ที่นี่ และสามารถค้นหาเปรียบเทียบสเปค DW ทุกค่ายได้ที่เว็บไซต์ dwarrant24.com ที่ให้นักลงทุนครบจบในที่เดียวไม่ว่าจะมือใหม่เริ่มต้นเทรดไปจนถึงมืออาชีพ อย่าลืมสมัครสมาชิก DW24 Rewards เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายในการเทรด DW
Post Views: 1,067