
หุ้นที่เราเทรดกันอยู่มีกี่ประเภท แล้วเราเหมาะกับหุ้นประเภทไหน
รู้ไหมครับว่าหุ้นที่คุณๆเล่นกันอยู่นี้มีลักษณะที่แตกต่างกัน ทั้งพื้นฐาน ลักษณะของการเคลื่อนไหว ความ Sensitive ของราคา หรือแม้แต่ลักษณะนิสัยของนักลงทุนขาประจำ ดังนั้นการที่คุณจะเล่นหุ้นตัวใดตัวหนึ่งนั้นคุณควรคำนึงว่าคุณและหุ้นตัวนั้นๆมีสไตล์เดียวกันหรือไม่ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักประเภทของหุ้นกัน……
- หุ้น Blue Chip มีลักษณะเป็นกิจการขนาดใหญ่ ที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง ผลดำเนินงานดีสม่ำเสมอ จ่ายปันผลพอสมควรอย่างต่อเนื่อง และส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่อยู่ในตลาดมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ เช่น บ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ธนาคารใหญ่ๆ เช่น ธ.กรุงเทพ ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์และหุ้นใหญ่ที่มี Brand เข้มแข็งอื่นๆ เช่น CPF และหุ้นในกลุ่ม PTT เป็นต้น
- หุ้น Growth Stock มีลักษณะของธุรกิจที่ยังอยู่ในช่วงการเติบโตได้ต่อเนื่อง ตลาดยังไม่อิ่มตัว มีคู่แข่งขันทางธุรกิจน้อยราย ผลดำเนินงานเติบโตเร็วแบบต่อเนื่องทั้งยอดขายและผลกำไร มักจะมีอัตราจ่ายปันผลต่ำเทียบกับผลกำไรที่ทำได้ (Payout Ratio) เนื่องจากอาจต้องกันเงินเพื่อนำไปลงทุนต่อ หุ้นในกลุ่มนี้มักจะมีราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) และ P/E ที่สูงมาก
- หุ้นที่เป็นวัฏจักร (Cyclical stock) มีลักษณะของธุรกิจที่ราคาสินค้าผันผวนขึ้นลงมากๆ ตามวัฎจักร Demand & Supply หรืออาจมีความต้องการจำเพาะในช่วงสั้นๆ เช่น ตามฤดูกาล ตามสภาพแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งจะแตกต่างจาก Growth stock ตรงที่ธุรกิจของ Growth stock จะเติบโตเร็วอย่างต่อเนื่อง หุ้นที่เป็นวัฏจักรมักจะมีผลกำไรผันผวนมากๆ จุดสูงสุดและต่ำสุดในช่วงวัฏจักรต่างกันหลายเท่าตัว ช่วงต่ำสุดอาจถึงขั้นขาดทุนในรอบวัฏจักรหนึ่งๆ กินเวลาหลายๆ ปี (ไม่ใช่ฤดูกาลในรอบ 1 ปี) ธุรกิจที่เป็นวัฏจักร เช่น ปิโตรเคมี, พืชผลต่างๆ, เดินเรือ, โรงกลั่นน้ำมัน เป็นต้น
- หุ้น Value stock มีลักษณะธุรกิจที่มีผลดำเนินงานดี และมีแนวโน้มอนาคตที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นธุรกิจใหญ่ ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าทางทฤษฎีมาก จึงมี P/E ต่ำ, P/BV ต่ำถึงปานกลาง ในอดีตคงหาหุ้น Value Stock ได้ง่าย แต่ปัจจุบันจากการที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมามาก และที่ผ่านมามีกูรูประเภท Value Investor ได้สอนให้นักลงทุนหาหุ้น Value กันอยู่หลายปีจนเป็นที่แพร่หลายกันในตลาด
- Income stock หรือที่คนไทยเรียก Dividend Stock (หุ้นปันผลสูง)มีลักษณะเป็นหุ้นที่มีผลตอบแทนเงินปันผลสูง ( Dividend Yield) มักเป็นหุ้นกิจการที่ไม่ใหญ่มากนัก จึงไม่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนเท่าไหร่ ผลตอบแทนปันผลจึงสูงอาจเป็นหุ้นที่อยู่ในธุรกิจที่ไม่ได้ขยายตัวสูงมาก จึงไม่ต้องใช้เงินสดเพื่อลงทุนขยายงานต่อมากนัก จึงสามารถนำมาจ่ายปันผลได้มาก หุ้นกลุ่มนี้ควรจะต้องจ่ายปันผลระดับสูงกว่าหุ้นกู้ระยะอายุ 5 ปีของบริษัทตัวเอง คือสักใกล้ๆ 6% ขึ้นไป และต้องไม่ใช่หุ้นธุรกิจวัฏจักรนะครับ เพราะปันผลหุ้นวัฏจักรจะไม่ยั่งยืน
- Defensive stock มีลักษณะเป็นหุ้นที่อยู่ในธุรกิจที่ไม่ค่อยผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ ยามเศรษฐกิจดี ธุรกิจของ Defensive จะได้ประโยชน์น้อยกว่าหุ้นอื่น แต่ยามเศรษฐกิจแย่ ธุรกิจของ Defensive ก็ได้รับผลกระทบน้อยกว่ามาก มักเป็นหุ้นที่มีคุ่แข่งน้อยราย ตัวอย่างในกลุ่มสาธารณูปโภค เช่น ผลิตไฟฟ้า
- Speculative stock (หุ้นเก็งกำไร) มีลักษณะเป็นหุ้นที่มีพฤติกรรมราคาผันผวนขึ้นและลงครั้งละมากๆ มีสภาพคล่องของการซื้อขายสูง มีจำนวนหุ้นเยอะ มักเป็นหุ้นที่มีความไม่แน่นอนของธุรกิจสูง มักมีทั้งข่าวจริงและข่าวลือเยอะๆ เพื่อให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อขายกันอย่างคึกคัก หุ้นประเภทนี้มีทั้งประเภทที่อยู่เป็นขาประจำ และขาจร ขาประจำ หุ้นในกลุ่มนี้มีทั้งหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นขนาดกลาง และหุ้นขนาดเล็ก หากคุณไม่ใช่เซียนและไม่ชอบของร้อนก็แนะนำให้ห่างจากหุ้นในกลุ่มนี้นะครับ
อยากจะบอกว่ามี DW ที่อ้างอิงบนหุ้นครบทั้ง 7 ประเภทที่เราได้แนะนำไปเลยนะครับ แต่ต้องอย่าลืมว่าการเทรด DW นั้นคุณจะต้องมีแผนการเทรดในระยะสั้นไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น เนื่องจาก DW นั้นมี Time Value ที่จะทำให้ต้นทุนทางการเงินของคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคุณควรหลีกเลี่ยงการเทรด DW ที่ใกล้วันหยุดอายุ เนื่องจากคุณอาจเสี่ยงต่อการขาดทุน หรือไม่ได้รับเงินคืนนะครับ อย่าลืมนะครับถ้าสนใจจะเทรด DW ให้นึกถึง DW24 เพราะเรามี DW ที่อ้างอิงบนหุ้นที่ครบถ้วนที่สุด

#ดีกว่า24ไม่มีอีกแล้วววว #ไวกว่าถ้าเทรดDW24
Post Views:
6,795