ถ้าพูดถึง JMART คงไม่มีใครไม่รู้จักเพราะเพราะทำธุรกิจที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นร้านขายอุปกรณ์ไอที ไปจนถึงบริษัทลูกที่ปล่อยสินเชื่อไปจนถึงติดตามหนี้แบบครบวงจร วันนี้เราจะมาเปิดอาณาจักรพอร์ตหุ้นของ JMART กันว่าถือหุ้นในบริษัทลูกที่ไหนบ้างและในสัดส่วนเท่าไหร่
ทำความรู้จัก JAYMART
JAYMART หรือชื่อในตลาดหลักทรัพย์คือ JMART ปัจจุบันบริษัทมีสถานะเป็นโฮลดิ้ง คอมพานี หรือประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจอื่น โดยมีธุรกิจหลักของบริษัทแกนคือ จำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่หลักทุกรายและผู้ให้บริการเครือข่าย และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ผู้ถือหุ้นใหญ่
ลำดับ | สัดส่วน |
1. บริษัท วี จี ไอ จำกัด (มหาชน) | 13.66% |
2. นาย อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา | 12.90% |
3. นาย เอกชัย สุขุมวิทยา | 8.40% |
ราคาล่าสุด 13.60 บาท (ราคาปิดวันที่ 28 มิถุนายน 2566)
บริษัทลูก JMART
1. J : บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลหลักทรัพย์
ธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ดังนี้1. การบริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี ภายใต้ชื่อ “IT Junction” 2. การพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบตลาดชุมชน ภายใต้ชื่อ “J Market” 3. การพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน ภายใต้ชื่อ “The Jas”
ผู้ถือหุ้นใหญ่
ลำดับ | สัดส่วน |
1. บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) | 66.69% |
2. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) | 2.48% |
3. น.ส. กุลิสรา การะ | 1.27% |
ราคาล่าสุด 2.38 บาท (ราคาปิดวันที่ 28 มิถุนายน 2566)
2. JMT : บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลหลักทรัพย์
ประกอบธุรกิจ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ บริษัทให้บริการแก่ผู้ว่าจ้างที่เป็นสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งประสงค์จะให้บริษัทฯ ติดตามและดำเนินการให้ลูกหนี้ของผู้ว่าจ้างชำระคืนหนี้ ขอบเขตการให้บริการ ครอบคลุมถึงการรับจ้างติดตามและจัดเก็บหนี้ รวมถึงงานด้านกฎหมาย ได้แก่ ฟ้องและสืบทรัพย์คดี 2) ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ โดยซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน หรือบริษัทต่างๆ และนำมาบริหารจัดเก็บหนี้ 3) ธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยเน้นให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถกระบะ และเน้นปล่อยสินเชื่อให้แก่บุคคลธรรมดา โดยเป็นการ spin off มาจาก JMART
ผู้ถือหุ้นใหญ่
ลำดับ | สัดส่วน |
1. บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) | 53.63% |
2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 5.25% |
3. กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว | 2.46% |
ราคาล่าสุด 34.00 บาท (ราคาปิดวันที่ 28 มิถุนายน 2566)
3. SINGER : บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลหลักทรัพย์
เป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าซิงเกอร์ เช่น จักรเย็บผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในบ้านต่างๆ นอกจากนี้ยังจำหน่ายสินค้าเชิงพาณิชย์ เช่น เครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการเกษตร ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือออนไลน์ ตู้เติมน้ำมันแบบหยอดเหรียญ และเครื่องทำน้ำหวานเกล็ดหิมะ เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม และหลากหลายทั้งกลุ่มลูกค้าบ้าน และกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ ผ่านร้านค้าปลีกซึ่งเป็นสาขาของบริษัทเอง และผ่านทางตัวแทนจำหน่ายต่างๆ มากกว่าร้อยละ 80 ของยอดขายเป็นการขายแบบเช่าซื้อ โดยบริษัทให้เช่าซื้อผ่านทาง บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด ซึ่ง บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 99.99
ผู้ถือหุ้นใหญ่
ลำดับ | สัดส่วน |
1. บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) | 25.20% |
2. บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) | 17.83% |
3. กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว | 5.92% |
ราคาล่าสุด 8.40 บาท (ราคาปิดวันที่ 28 มิถุนายน 2566)
4. SGC : บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลหลักทรัพย์
ให้บริการ (1) สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ และเครื่องจักร (2) สินเชื่อประเภทให้เช่าซื้อรถยนต์แบบโอนกรรมสิทธิ์เล่มทะเบียน และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (3) สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน และ (4) สินเชื่อผ่อนทอง (Click2Gold) ภายใต้ชื่อ “เอสจี แคปปิตอล”
ผู้ถือหุ้นใหญ่
ลำดับ | สัดส่วน |
1. บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) | 74.92% |
2. บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) | 4.46% |
3. บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) | 2.20% |
ราคาล่าสุด 1.45 บาท (ราคาปิดวันที่ 28 มิถุนายน 2566)
ที่มา SET
บริษัทลูกทั้ง 4 บริษัทที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลุ่มเจมาร์ทเท่านั้น จริงๆแล้วยังมีบริษัทลูกที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกมากดังโครงสร้างตามด้านล่างนี้
ที่มารูปภาพ JMART
Post Views: 544