fbpx

เงินบาทแข็งค่าลงทุนหุ้นกลุ่มไหนดี?

January 27, 2023

หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าแต่ละครั้งที่ค่าเงินบาทขึ้น-ลงนักลงทุนเก็งกำไรส่วนใหญ่มักจะหาโอกาสในหุ้นที่ได้รับประโยชน์เพื่อทำกำไร วันนี้ DW24 จะมามาดูกันว่าแท้จริงแล้วค่าเงินบาทนั้นส่งผลต่อตลาดหุ้นในทิศทางใดและมากน้อยอย่างไร

ทิศทางค่าเงินต่อการไหลของเงินทุน

นักลงทุนอาจจะพอเคยได้ยินมาว่าถ้าเงินบาทอ่อนเงินทุนต่างชาติจะไหลออก ถ้าเงินบาทแข็งเงินทุนต่างชาติจะไหลเข้าข้อมูลนี้อาจจะเป็นข้อมูลปลายทางที่สรุปมาแล้ว แต่เราจะมาดูกันว่าอะไรที่ทำให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้ขึ้น

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าทิศทางของค่าเงินต่างๆ มีผลมาจากหลายปัจจัยทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นงบดุลทางการค้าของประเทศ การเติบโตทางเศรษฐกิจ นโยบายการเงินการคลัง เป็นต้น โดยปัจจัยเหล่านี้จะถูกกำหนดทิศทางโดยรัฐบาลแต่ละประเทศซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในประเทศนั้นๆ

ตัวอย่าง

ประเทศ Aประเทศ Bความสนใจของนักลงทุน
นโยบายขาดดุลการค้านโยบายเกินดุลการค้าสนใจลงทุนในประเทศ B
ดอกเบี้ยนโยบายต่ำดอกเบี้ยนโยบายสูงสนใจลงทุนในประเทศ B
เศรษฐกิจเติบโตช้าเศรษฐกิจเติบโตเร็วสนใจลงทุนในประเทศ B
การท่องเที่ยวเติบโตการท่องเที่ยวเติบโตสนใจลงทุนในประเทศ A, B

จากตารางเมื่อเทียบกันแล้วพบว่านักลงทุนมีความสนใจลงทุนในประเทศ B มากกว่าประเทศ A ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าประเทศ B น่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องจึงเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก และการลงทุนที่สูงช่วยให้ความต้องการในเงินสกุลของประเทศนั้นมากค่าของเงินก็จะสูงตามหรือเรียกว่าค่าเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น ดังนั้นเมื่อเทียบประเทศ A กับ B จึงบอกได้ว่าประเทศ B มีโอกาสที่ค่าเงินจะแข็งกว่าประเทศ A

จริงหรือไม่? เงินบาทแข็งหุ้นส่งออกเสียเปรียบ

คำตอบคือจริง!! แต่ไม่ทั้งหมด ภาพรวมของหุ้นส่งออกจะเสียเปรียบจากที่เงินบาทแข็งเนื่องจากการส่งสินค้าออกไปขายส่วนใหญ่จะขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากนั้นเมื่อแลกกลับมาเป็นเงินบาทจะมีมูลค่าที่ลดลง เช่น ก่อนหน้าอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.00 บาท เมื่อส่งของออกไปขายได้เงินมา 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และแลกเงินกลับมาเป็นเงินบาทจะได้เงินมูลค่า 35 ล้านบาท แต่ถ้าปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 33.00 บาท ดังนั้นเมื่อส่งของออกไปขายได้เงินมา 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่าเดิมแต่แลกเงินบาทกลับมาได้แค่ 33 ล้านบาท หรือบริษัทส่งออกจะมีรายได้ลดลง 2 ล้านบาท

ถึงแม้ว่าส่งของออกไปขายมูลค่าเท่าเดิมแต่เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้นเงินที่แลกกลับมาได้นั้นน้อยลงทำให้ส่งผลต่อรายได้ของบริษัทส่งออกทุกบริษัท แต่เพื่อลดความเสี่ยงรายได้บนอัตราแลกเปลี่ยนแต่ละบริษัทจึงทำการล็อคอัตราแลกเปลี่ยนไว้ เพื่อช่วยให้เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นรายได้บริษัทก็จะไม่ลงลงตามค่าเงินที่ปรับตัวลงซึ่งบริษัทส่งออกจะเสียเปรียบน้อยลง

เงินบาทแข็งค่าขึ้นหุ้นนำเข้าไปเปรียบยังไง

กลับมาที่หุ้นนำเข้าคือบริษัทที่ซื้อสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศ จากตัวอย่างเดิมก่อนหน้าอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.00 บาท เมื่อนำเข้าสินค้ามูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะใช้เงินมูลค่า 35 ล้านบาท แต่ถ้าปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 33.00 บาท ดังนั้นเมื่อนำเข้าสินค้ามูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่าเดิมจะใช้เงินเพียงแค่ 33 ล้านบาท หรือบริษัทส่งออกจะมีต้นทุนลดลง 2 ล้านบาท

ด้วยเหตุผลนี้เองนักลงทุนจึงสามารถเข้าเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์เมื่อเงินบาทอ่อนค่า-แข็งค่าได้เพื่อเก็งกำไรได้จากการที่รายได้หรืองบการเงินอาจจะเติบโตขึ้นจากการได้ประโยชน์ด้านอัตราแลกเปลี่ยน จึงสรุปได้ว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มนำเข้าและหุ้นที่มีการกู้เงินทุนจากต่างประเทศ และหุ้นที่เสียเปรียบจะเป็นหุ้นกลุ่มส่งออก

ของแถมจาก DW24

DW24 จะเปรียบเทียบค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กับดัชนี SET ให้นักลงทุนเห็นถึงความสอดคล้องกันเพื่อดูแนวโน้มตลาดประกอบการลงทุน

ค่าเงินบาทเทียบ SET-Index