ในวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการลงทุนหลาย ๆ ประเภทมีความผันผวนสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนที่มีการอ้างอิงราคาซื้อขายกับเศรษฐกิจและผลประกอบการของผู้ออกผลิตภัณฑ์โดยตรง อย่างไรก็ดี ท่ามกลางวิกฤตที่แสนมืดมนในสนามการลงทุนที่หลากหลายนี้ นักลงทุนอย่างเรา ๆ ก็ยังสามารถชนะตลาดการลงทุนที่แสนผันผวนได้ด้วยการเทรด DW เช่นกัน แต่จะทำอย่างไรให้การเทรด DW มีประสิทธิภาพมากพอที่ฝ่าวิกฤตและคว้าโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ ที่นี่มีคำตอบ!
เข้าใจก่อน! เทรด DW จะชนะตลาดการลงทุนได้อย่างไร?
เป็นปกติธรรมดาที่โลกของการลงทุนจะมีขึ้นลงอยู่เสมอ เนื่องจากหลาย ๆ การลงทุนเองก็มีราคาซื้อขายขึ้นอยู่กับปัจจัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการของผู้ออกผลิตภัณฑ์ ตลอดจนสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา
อย่างไรก็ดี สภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ตลอดจนค่าเงินที่ผันแปร รวมไปถึงภาวะเงินเฟ้อและฝืดกลับส่งผลให้ตลาดการลงทุนมากมายมีความผันผวนสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้นักลงทุนหลายคนมีโอกาสจับจังหวะการลงทุนพลาด จนทำให้ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ต้องการได้
ดังนั้น ทางออกของปัญหานี้จึงไม่ได้อยู่แค่การปรับพอร์ตการลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการมองหาการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทน ทั้งในช่วงที่ตลาดอยู่ในสภาวะขาขึ้นและลงได้อย่างมีประสิทธิภาพร่วมด้วย
ด้วยเหตุนี้ การเทรด DW นี้มาพร้อมกับ CALL DW ที่จะมีราคาซื้อขายไปในทิศทางเดียวกับตลาด ทำให้สามารถลงทุนในตลาดขาขึ้นได้ นอกจากนี้ DW ยังมี PUT DW ที่มีราคาซื้อขายวิ่งสวนทางกับราคาตลาด ทำให้จับจังหวะการลงทุนในขณะที่ตลาดกำลังอยู่ในสภาวะขาลงได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ DW ยังเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีการอ้างอิงราคาทั้งกับ “ดัชนี (Index)” และ “หุ้นรายตัว (Single Stock)” ซึ่งทำให้นักลงทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ ในปัจจุบัน นักลงทุนยังสามารถเทรด DW ที่อ้างอิงดัชนี DW และหุ้นทั้งในไทยและต่างประเทศได้อย่างสะดวก ภายในเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ไทย ไม่ต้องตื่นตี 1 หรือ 2 ก็สามารถเทรด DW ได้ อีกทั้งยังสามารถลงทุนได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่อีกด้วย
นักลงทุนควรจับทิศทางการเทรด DW อย่างไร?
ถึงจะช่วยให้นักลงทุนชนะตลาดการลงทุนได้ทั้งในช่วงขาขึ้นและลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านักลงทุนจะสามารถเทรด DW ได้โดยไม่พิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องเลย เพราะอย่าลืมว่าไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบไหนก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องบริหารเช่นเดียวกัน โดยเบื้องต้นแล้ว การจับทิศทางการลงทุน DW นั้นสามารถเริ่มต้นพิจารณาได้จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
1. ปัจจัยแวดล้อมที่ส่งต่อราคา DW
“ความผันผวนของดัชนีและหุ้นรายตัวที่ DW อ้างอิงราคาไว้” เป็นปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลต่อราคาซื้อขาย DW โดยตรง
โดยส่วนใหญ่แล้ว การเทรด DW ที่อ้างอิงกับดัชนีนั้นจะมีอัตราทด หรือ Effective Gearing ที่ค่อนข้างสูง ซึ่งถึงแม้จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูง แต่ความเสี่ยงในการลงทุนก็จะยิ่งสูงขึ้นไปด้วย
อย่างไรก็ดี การลงทุน DW ที่อ้างอิงหุ้นรายตัวนั้นจะต้องพิจารณาถึงราคาซื้อขายตามภาพรวมตลาด รวมไปถึงปัจจัยที่ส่งเสริมให้หุ้นตัวนั้น ๆ โดดเด่น เช่น ผลประกอบการ โอกาสทางธุรกิจ และอื่น ๆ อีกมากมาย
จะเห็นได้ว่า การจับทิศทางการลงทุน DW นั้นจึงสามารถทำได้โดยการพิจารณาสภาวะของดัชนีและรายละเอียดของหุ้นรายตัวควบคู่กันไป ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องหมั่นติดตามข่าวสาร และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวในตลาดการลงทุนเพื่อเลือก DW ที่เหมาะสม และจับจังหวะสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง
2. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ DW โดยตรง
ไม่เพียงแต่จะต้องพิจารณาเลือกหุ้นรายตัวและดัชนี เทรด DW เท่านั้น แต่นักลงทุนยังต้องพิจารณาปัจจัยที่มาพร้อมกับ DW ที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการลงทุน
เช่น อัตราทด หรือ Effective Gearing ที่เปรียบเสมือนตัวคูณผลตอบแทนและการขาดทุน ตลอดจนค่าเสื่อมเวลา หรือ Time Decay เนื่องจาก DW เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีวันหมดอายุ หากยิ่งถือนานก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุนในอนาคตได้ นอกจากนี้ การเทรด DW ยังมีสถานะการเทรดอย่าง ITM, ATM และ OTM ที่ต้องพิจารณาเพื่อบริหารความเสี่ยงอีกด้วย
ดังนั้น หากต้องการจับทิศทางการลงทุน DW เพื่อสร้างแผนการลงทุนที่เหมาะสม นักลงทุนยังต้องทำการศึกษารายละเอียด ตลอดจน เข้าใจปัจจัยพื้นฐานการเทรด DW ให้ครบถ้วนด้วยเช่นกัน
แนวทางการวางแผนเทรด DW ขั้นพื้นฐาน แต่ปรับใช้ได้จริง!
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเริ่มต้นเทรด DW เพื่อชนะตลาดการลงทุน แต่ยังไม่รู้ว่าจะวางแผนอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ลองมาพิจารณาตาม 3 แนวทางการวางแผนลงทุน DW ที่นำมาฝากนี้ดู
1. เลือกเทรด DW เมื่อราคาหุ้นลงต่ำเพื่อรอจังหวะตลาด
การซื้อ DW เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำจากประเด็นที่ส่งผลกระทบต่างๆ จากนั้นหาโอกาสทำกำไรจากการรีบาวน์กลับขึ้นมาอีกครั้งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการลงทุน DW ที่ได้รับความนิยมสูง อย่างไรก็ดี หากนักลงทุนต้องการเทรด DW ด้วยแผนนี้ ขอให้พิจารณาถึงแนวโน้มตลาดทั้งหุ้นรายตัวและดัชนี DW พร้อมวางแผนการลงทุนให้รัดกุมมากที่สุด เพราะอย่าลืมว่าในระหว่างทาง DW ที่ถือไว้ก็มีทั้งอัตราทดและค่าเสื่อมเวลา และหากจับจังหวะตลาดพลาดก็หมายถึงโอกาสขาดทุน ดังนั้น จึงต้องมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า DW ที่ถือนั้นจะสามารถสร้างผลตอบแทนในอนาคตได้
2. เลือกลงทุน DW ที่มีค่า Sensitivity ใกล้ 1
การเลือกลงทุน DW ที่มีค่า Sensitivity ใกล้ 1 เป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกประสบการณ์ เพราะค่า Sensitivity จะบอกถึงราคา DW ที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อราคาดัชนี หรือหุ้นอ้างอิงเปลี่ยนไป 1 ช่อง ซึ่งหากเลือกเทรด DW ที่มีค่า Sensitivity ใกล้ 1 ก็จะทำให้เทียบราคาซื้อขายได้แบบช่องต่อช่อง ส่งผลให้วางแผนการลงทุนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
3. ลงทุน DW แบบ Run Trend
การลงทุนแบบ Run Trend คือ การเทรด DW ให้จบเป็นรอบของหุ้นหรือดัชนี มักเป็นที่นิยมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนแบบเป็นรอบของหุ้น การวางแผนเทรด DW แบบนี้ไม่ต้องมานั่งกังวลการถือ DW ข้ามวัน เพียงแค่วางแผนจุดเข้าจุดออกจากนั้นเริ่มต้นการเทรด ตามแผนที่วางไว้ และนักลงทุนก็ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูงมากขึ้นเช่น พอเป็นสาย Day Trade คัท DW ออกจากพอร์ตแล้ววันถัดมาราคาดีดกลับขึ้นสูงซึ่งทำให้เสียโอกาสเช่นนี้ไปได้ กัน ดังนั้น การลงทุน DW สไตล์ Run Trend นี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ระดับหนึ่งในการดูเทรนด์ของหุ้น และไม่ชอบการเฝ้าหน้าจอตลอดทั้งวัน
เอาชนะตลาดการลงทุนด้วย DW24
ไม่เพียงแต่จะมาพร้อมเครื่องมือและตารางราคา DW ที่มีประสิทธิภาพและแสดงผลได้ทุกค่าย แต่บริษัทหลักทรัพย์ Finansia Syrus ยังมาพร้อมกับ DW24 บนดัชนีและหุ้นรายตัวพื้นฐานดี ออกแบบสเปค DW เพื่อทุกสไตล์การลงทุนที่แท้จริง โดยผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่าง DW24 ยังมี Effective Gearing สูง และ Time Decay ที่ลงตัวกับทุกแผนการ เทรด DW ของนักลงทุนทุกประสบการณ์ พร้อมอัปเดตทุกข่าวสารที่จำเป็นต่อการลงทุน DW ทั้งหมดได้แบบครบจบในที่เดียว
Post Views: 1,235